เที่ยวลาวตอนที่ 6 น้ำตกตาดกวงสี วังเจ้ามหาชีวิต วัดใหม่ฯ
(เดินทาง 7-10 ธันวาคม 2555)
ทัวร์หลวงพระบางตอนที่ 6 จะพาไปเที่ยวพระราชวังของ "เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา" หรือวังของกษัตริย์ลาว และคำว่า “เจ้ามหาชีวิต” ความหมายก็คือเจ้าเมืองหรือกษัตริย์นั่นเอง
ออกจากวังแล้วก็เดินไปที่วัดใหม่หรือวัดใหม่สุวรรณภูมาราม ที่อยู่ติดกัน ซึ่งถนนหน้าวัดใหม่และหน้าวัง ถือว่าเป็นถนนสายหลักที่ทุกคนจะต้องรู้จักและจะต้องผ่านไปผ่านมาอยู่หลายครั้ง ตอนกลางคืนถนนเส้นนี้จะกลายเป็นถนนคนเดิน มีสินค้าจากชาวเขาและชาวลาวมาวางขายมากมาย และถนนสายนี้ก็มีเฮือนพักหรือเกสเฮ้าส์ตลอดสองฝั่งถนน
ตอนเช้าๆนักท่องเที่ยว(คนไทย)ก็จะมารวมกันที่ถนนสายนี้เพื่อตักบาตรข้าวเหนียวกับพระจำนวนถึง 200 รูป ซึ่งเป็นภาพที่แพร่หลายไปทั่วโลกและเป็นเสน่ห์ของหลวงพระบาง สะท้อนถึงความเป็นเมืองพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
ออกจากวัดใหม่ก็ไปเที่ยวน้ำตกตาดกวงสี ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบาง ยามหน้าฝนจะมีน้ำล้นทะลักชนิดรุนแรง แต่ยามน้ำน้อยเช่นในเดือนนี้ ก็ยังถือว่าไม่น้อยจนเกินไป ไม่แห้งจนเหลือแต่น้ำขังตามซอกหินเช่นในเมืองไทย
บ้านเราเวลาไปเที่ยวน้ำตกตอนหน้าหนาวหรือหน้าร้อน มีความรู้สึกว่าอากาศภายในบริเวณน้ำตกไม่ค่อยเย็นอะไรนัก หลายแห่งร้อนพอๆอากาศทั่วไปที่อยู่ด้านนอก
แต่ในลาวกลับตรงกันข้าม เข้ามาในบริเวณน้ำตก เหมือนเดินเข้ามาในป่าที่ร่มรื่นและรู้สึกเย็นสบาย
สำหรับวังเจ้ามหาชีวิตของลาว ห้ามถ่ายภาพภายในอาคาร จึงได้เห็นบรรยากาศภายนอก และวันนี้เป็นวันหยุด(ยาว)จึงมีแต่คนไทยทั้งนั้น
ก่อนที่ไทยจะเสียดินแดนให้ฝรั่งเศส สยามประเทศกับลาว(ล้านช้าง) มีเส้นแบ่งอาณาเขตกันใกล้ๆกับแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านเมืองหลวงพระบาง พอมาถึง พ.ศ.2436 (รศ.112) ฝรั่งเศสได้ยึดเอาพื้นจากดินแดนไทยอีก 143,000 ตรกม.หรือดินแดนทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง
ทำให้เส้นแบ่งดินแดนลาวกับไทยในบริเวณนีั้ขยับไปติดกับบ้านห้วยโกร่น จังหวัดน่าน
ปัจจุบันวังเจ้ามหาชีวิตใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ของกษัตริย์ลาว และก็ถือว่ามีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนอีกที่เป็นเขตพระราชฐานเก่าทางประวัติศาสตร์
ซึ่งต่างกับไทยค่อยข้างมากที่ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ถือว่าเป็นยุคของสร้างวัง ซึ่งทุกวันนี้มีมากมายจนนับไม่ถ้วน
วังเจ้ามหาชีวิตของลาวเป็นสถาปัตย์กรรมแบบฝรั่งเศสกับสถาปัตย์กรรมแบบลาวล้านช้างสร้างเมื่อพ.ศ. 2489 โดยสร้างหลังจากฝรั่งเศสยุบรวม 3 อาณาจักรของลาวให้เหลือเพียงอาณาจักรเดียว โดยให้นครเวียงจันทน์เป็นเมืองหลวง และให้เมืองหลวงพระบางเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตของลาว เท่ากับว่าให้การยอมรับสถานภาพของเจ้ามหาชีวิต แห่งเมืองหลวงพระบางแต่เพียงแห่งเดียว
ส่วนเจ้ามหาชีวิตหรือเจ้าเมืองเวียงจันทน์ และเมืองจำปาสัก ฝรั่งเศสก็ให้เป็นที่ปรึกษาของเจ้าเมืองคนใหม่ และรับนโยบายการปกครองมาจากชาวฝรั่งเศส
ก่อนฝรั่งเศสจะยึดลาวเป็นเมืองขึ้น ลาวแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายหรือ 3 ประเทศเล็กๆ ได้แก่ ลาวหลวงพระบาง ลาวเวียงจันทน์ และลาวจำปาสัก พอฝรั่งเศสเข้ามาก็ยุบเหลือประเทศเดียว และให้มีกษัตริย์เดียวก็คือเจ้ามหาชีวิตแห่งเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเชื้อสายของกษัตริย์ล้านช้างดั่งเดิม
หลังจากลาวได้รับอิสรภาพจากฝรั่งเศสเมื่อ 19 กรกฏาคม 2492 ต่อมาในปี 2505 ลาวก็เข้าสู่ยุคสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ (พ.ศ 2505-2518) และยุคนี่เองที่ถือว่าเป็นการสิ้นสุดของเชื้อพระวงศ์ลาว เนื่องจากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาและราชวงศ์ทั้งหมดถูกจับกุมให้ไปอยู่ในค่ายกักกันที่บ้านเวียงชัย
สาเหตุที่ถูกจับกุมก็เนื่องจากให้การสนับสนุนกับลาวฝ่ายขวาหรือฝ่ายสหรัฐ

มาถึงตรงนี้ก็ขอทำความเข้าใจเล็กน้อย เนื่องจากลาวในช่วงยุคคอมมิวนิสต์นั้นก็ไม่ต่างกับประเทศเวียดนามที่แบ่งออกเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้
ส่วนลาวไม่มีการแบ่งประเทศ แต่ดินแดนลาวที่อยู่ทางใต้เช่นเมืองเวียงจันทน์ เมืองจำปาสัก สหรัฐอเมริกาได้ส่งกองกำลังเข้ามาคุ้มกัน ขณะเดียวกันก็ทำสงครามสู้รบกับลาวแดงที่ยึดพื้นที่อยู่ทางตอนเหนือได้แก่เมืองหลวงพระบาง อุดมไชย พงสาลี ที่อยู่ติดกับเวียดนาม เท่ากับว่าวังของเจ้ามหาชีวิตเมืองหลวงพระบางตกอยู่ในดินแดนของลาวคอมมิวนิสต์
เมื่อกองทัพสหรัฐอเมริกาถอนทหารออกจากเวียดนามเมื่อพ.ศ.2518 สหรัฐก็ได้ถอนทหารพร้อมอาวุธยุธโธปรณ์ออกจากประเทศลาวด้วย จึงทำให้กองทัพเวียดนามบุกยึดประเทศลาว(ลาวขวา)ในเวลาต่อมา
หนังสือบางเล่มอธิบายเหตุการณ์ในช่วงนี้ว่าเป็นการปลดแอกประเทศลาว ให้พ้นจากการยึดครองของสหรัฐอเมริกา แต่ความจริงแล้วไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะหากกองทัพสหรัฐไม่เข้าไปช่วยลาว ประเทศลาวก็คงไม่พ้นเงื้อมมือของคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่แรกแล้ว และเหตุการณ์อาจรุนแรงและโหดร้ายพอๆกับการฆ่าล้างเผาพันธ์ในประเทศกัมพูชา ที่มีพลเมืองกัมพูชาเสียชีวิตนับล้านคน
หนังสือประวัติศาสตร์ของลาวที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในยุคนั้น เป็นการเขียนโดยฝ่ายลาวแดงหรือลาวคอมมิวนิสต์ที่ยึดประเทศได้
ไม่ต่างกับประเทศเวียดนามที่เวียดนามเหนือยึดเวียดนามใต้ ซึ่งทำให้คนเวียดและเยาวชนถูกฝ่ายรัฐบาลคอมมิวนิสต์ซึมซับให้จดจำและเข้าใจว่า "สหรัฐอเมริกาเป็นฝ่ายแพ้เวียดนาม"
ทุกวันนี้ประเทศเวียดนามและประเทศลาวหรือ สปป.ลาวในปัจจุบัน ปกครองด้วยพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ทั้งสองประเทศนี้ก็มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปไตยแบบคอมมิวนิสต์ คือให้เลือกคนที่พรรคส่งเข้าสมัครรับเลือกตั้ง และไม่มีการหาเสียง
ในวันเลือกตั้งประช่าชนคนลาวก็ไปอ่านประวัติของผู้สมัครที่แปะไว้ในสถานที่เลือกตั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะเลือกใคร จากนั้นก็เดินเข้าคูหา กาเบอร์ที่เราเลือก นี่คือการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแบบคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกับในประเทศจีนและเวียดนาม
จีน ลาว เวียดนาม ไม่มีพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งต่างกับประเทศกัมพูชา ที่มีทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ก่อนการเลือกตั้งก็มีการหาเสียง ติดโปสเตอร์ โฆษณาตามท้องถนนได้
ยุคสมัยของลาว
อาณาจักรล้านช้าง พ.ศ 1896 - 2250 (345 ปี)
ลาว 3 ฝ่าย(ยุคแตกแยก) 2250 - 2436 (186 ปี)
ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส 2436 - 2496 (60 ปี)
ยุคอาณาจักรลาว 2497 - 2505 (8 ปี)
สงครามกลางเมือง(คอมมิวนิสต์) 2505 - 2518 (13 ปี)
ยุค สปป.ลาว 2518 - ปัจจุบัน
โฟโต้ออนทัวร์
15 มีนาคม 2557
|