ประวัติพระนางซูสีไทเฮา(โดยละเอียด)
ปักกิ่งตอนที่ 5 : วังฤดูร้อน อี้เหอหยวน (The Summer Palace or Gardens of Nurtured Harmony)
(เดินทาง กุมภาพันธ์ 52)
เช้าวันนี้หนาวกว่าเมื่อวานจนมือไม้แทบแข็งกระด้าง ออกมาอยู่หน้าโรงแรมในเมืองปักกิ่งเพื่อถ่ายภาพสาวๆในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ต่างคนก็เร่งรีบไปทำงานเช่นเดียวกับบ้านเรา
หลังจากทนหนาวได้ไม่นานก็ต้องรีบขึ้นรถที่จอดรออยู่ เมื่อขึ้นมาแล้วทุกคนก็แปลกใจ ขวดน้ำเปล่าที่แจกเมื่อวานและกินกันไม่หมดปรากฏว่าเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง ทีแรกก็ไม่เชื่อกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะขวดน้ำอยู่ในรถ แต่พอรู้ว่ารถจอดนอกอาคารทั้งคืนจึงเชื่อว่าเป็นไปได้
หนาวจนน้ำในขวดกลายเป็นน้ำแข็ง แม้จะไม่แข็งตัวเพียงบางส่วนแต่ก็พอจะรู้ว่าเมื่อคืนนี้จนถึงขณะนี้อุณภูมิน่าจะติดลบไปแล้ว ใครไม่รู้จักคำว่าหนาวจนเข้ากระดูก หรือหนาวจนหน้าชา มาเที่ยวจีนคราวนี้ต่างรู้รสชาติกันชนิดลืมไม่ลง
ชุดกันหนาวที่เตรียมกันมาอย่างครบเครื่องดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะที่ปิดใบหูเพื่อกันหูแข็งกระด้าง ราคาเพียงไม่กี่ตังค์ ถูกๆก็ราวอันละไม่เกิน 30 บาท แต่ใช้ประโยชน์คุ้ม คนจีนเห็นใส่กันเยอะทั้งหญิงและชาย แรกๆคนไทยไม่ค่อยกล้าใส่เพราะดูประหลาดๆ เกะกะบ้าง แต่ในที่สุดก็ต้องหยิบมาใช้ ใครไม่ได้เตรียมก็ต้องหาผ้ามาพันหัวพันหูเหมือนสาวชาวอาหรับที่โผล่ให้เห็นแต่ลูกตา
ไกด์สาวชาวจีนของเรารู้สึกว่าวันนี้จะใส่รองเท้าที่แปลกกว่าวันก่อน เป็นรองเท้าชนิดป้องกันความหนาวเมื่อหนาวจัด แกบอกว่าคนจีนจะมีรองเท้าบูธหนาๆ ใช้ในยามที่หนาวจัด ส่วนคนไทยโดยเฉพาะผู้ชายส่วนใหญ่ใส่รองเท้ากีฬาชนิดเสริมผ้าแบบทั่วไป รู้เลยว่ามันเอาไม่อยู่แม้จะใส่ถุงเท้าอย่างหนา นิ้วเท้าชาแล้วชาอีก ต้องคอยขยับให้เลือดมันเดิน หรือเอามือจับเพื่อให้อุ่นขึ้น
เขียนเรื่องเย็นๆ หนาวๆ ก็เพราะมันหนาวจริงๆ และหนาวกันทั้งวัน ชนิดสะใจคนขี้ร้อน อยากเจอของจริงต้องมาเที่ยวในเดือนกุมภาพันธ์ โชคดีอาจเจอหิมะ
โปรแกรมเช้านี้จะไปชมวังฤดูร้อนของพระนางซูสีไทเฮา (The Summer Palace ) หรืออี้เหอหยวน สมัยที่ซูสีไทเฮาเป็นใหญ่มักใช้เวลาส่วนใหญ่ประทับอยู่ที่วังนี้ เพราะทะเลสาบสวยงามและมีสวนดอกไม้มากมายถึง 300 แห่ง
วังนี้อยู่ห่างใจกลางปักกิ่งราว 11 กม. เมื่อรถไปถึงก็เห็นรั้วสูงเป็นแนวยาว ต้นไม้ใหญ่รอบวังเวลานี้มีแต่กิ่งก้าน ไม่มีใบไม้แม้แต่ต้นเดียวเนื่องจากเป็นฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ร่วง หากมาเที่ยวในฤดูใบใม้ผลิคิดว่าต้นไม้เหล่านี้น่าจะออกดอกสวยงามกันทั้งวัง เพราะที่นี่อดีตเป็นทั้งวังและเป็นอุทยานมาหลายสมัย แต่มีการบูรณะหลายครั้งในสมัยของพระนางซูสีไทเฮา ถึงขนาดให้คนงานจำนวนมหาศาลทำการขุดดินจนกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีพื้นที่ราว 2.2 ตารางกิโลเมตร ส่วนดินที่ขุดก็นำไปสร้างภูเขาจำลองที่มีความสูงถึง 60 เมตร
การบุรณะปรับปรุงวังแต่ละครั้งก็นำเงินหลวงของกองทัพเรือมาใช้จ่าย จนทำให้กองทัพเรืออ่อนแอ กระทั่งพ่ายแพ้กองทัพญี่ปุ่น
วังฤดูร้อนมีพื้นที่ 2.9 ตารางกิโลเมตร แต่พื้นที่ 3 ใน 4 ของพื้นที่เป็นทะเลสาบ (2.2 ตรกม.) ใครมาเห็นก็ต้องบอกว่าอลังการงานสร้าง มันใหญ่โตจนแทบไม่เชื่อสายตาว่าเป็นฝีมือขุดจากแรงงานมนุษย์
ทุกเช้าราว 8.00 น. ลานซีเมนต์บริเวณหน้าวังจะเป็นที่ชุมนุมนักท่องเที่ยวจำนวนหลายร้อยคนเพื่อรอเวลาเปิด แต่ส่วนใหญ่หน้าตาเป็นชาวจีน ทัวร์จีนบางกรุ๊ปเหมือนจะใส่เสื้อหนาวแบบหนาๆสีน้ำเงินเหมือนกันหมดทั้งคณะ
ขณะรอเวลาหลายคนก็พยายามยืนให้โดยแสงแดด หรือขยับเขยื้อนแข้งขา เพราะวันนี้หนาวสุดทนจริงๆ
จากนั้นไม่นานไกด์ก็พาเดินเข้าวัง
พระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace) สร้างในสมัยราชวงศ์จิ้น เมื่อราว 800 ปีก่อน เพื่อใช้เป็นที่ประทับแรม ต่อมาได้มีการต่อเติมขึ้นหลายครั้ง จนมาถึงสมัยพระจักรพรรดิเฉียงหรง ในราชวงศ์ชิง ทรงมีพระราชโองการให้สร้างขยายอุทยานแห่งนี้ให้กว้างออกไปและทรงให้ชื่อว่า อุทยาน "ชิงอีหยวน" เมื่อปี พ.ศ. 2403 (ค.ศ 1860)
อุทยาน ชิงอีหยวน ถูกเผาทำลายโดยกองทหารอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2409 โดยพระนางซูสีไทเฮาได้นำเอาเงินงบประมาณของกองทัพเรือมาบูรณะพระราชวังฤดูร้อนขึ้นใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อมาเป็น อี๋เหอหยวน
ต่อมาได้ถูกกองทหารพันธมิตรของมหาอำนาจจักรวรรดินิยม 8 ประเทศ เผาทำลายในปี พ.ศ. 2443 (ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5) แต่หลังจากนั้นราว 3 ปี พระนางซูสีไทเฮาก็ทรงบูรณะพระราชวังนี้ขึ้นอีกครั้ง เนื่องวังนี้เป็นที่โปรกปรานของพระองค์มาก และทรงประทับอยู่วังนี้มากกว่าประทับอยู่ในวังหลวงหรือวังกู้กงในกรุงปักกิ่งเสียอีก
สถานที่สำคัญในวัง อี้เหอหยวน
1 พระราชวังมีพื้นที่ 2.9 ตารางกิโลเมตร หรือราว 1800 ไร่ แต่พื้นที่ 3 ใน 4 เป็นทะเลสาบ ชื่อว่าทะเลสาบคุนหมิง
2 ดินที่ขุดจากทะเลสาบนำไปถมเป็นภูเขาแล้วสร้างวังบนภูเขา ให้ชื่อว่า ว่านโซวซ่าน (ภูเขาหมื่นปี)
3 มีสวนดอกไม้จำนวน 300แห่ง ภายในอุทยาน
4 ระเบียงทางเดินริมทะเลสาบ มีชื่อเรียกว่า ฉางหลาง มีหลังคาคลุมโดยตลอดทอดยาวจากหมู่พระตำหนักตะวันออกไปยังเรือหินอ่อนทางตะวันตก ความยาวรวม 777 เมตร สร้างในปีค.ศ. 1750 ผนังและใต้หลังคามีภาพจิตรกรรม
6 เรือหินอ่อน เป็นเรือที่พระเจาเฉียนหลงทรงสร้างไว้ก่อนแล้ว พระนางซูสีไทเฮาสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสมบูรณ์
ตำหนักสำคัญภายในวังฤดูร้อน
1 ตำหนักเหวินโซ่วเตี้ยน พระนางซูสีไทเฮาใช้เป็นที่เสด็จออกประทับนั่งบนบัลลังก์มังกร ให้บรรดาเชื้อพระวงศ์เข้าเฝ้า จะเห็นได้ความยิ่งใหญ่ของหงส์เหนือมังกร แสดงถึงอำนาจของพระนางที่อยู่เหนือฮ่องเต้
2 ตำหนักอวี่หลันเตี้ยน เป็นพระตำหนักที่เราของจักรพรรดิกวางสู (Guangxu) พระนางซูสีทรงจับจักรพรรดิกวางสูขังไว้ภายใน ปี พ.ศ.2441 ขังอยู่ 10 ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ.2451 พระชนมายุได้ 37 พรรษา ก่อนที่พระนางซูสีไทเฮาจะเสด็จสวรรคตได้เพียง 1 วัน
3 ตำหนักอี้เล่อเตี้ยน (วิหารบรอนซ์) เป็นสถานที่พระนางซูสีไทเฮาประทับชมการแสดงงิ้ว โรงงิ้วที่อยู่ติดกัน สูง 3 ชั้น สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสที่พระนางทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา พระนางโปรดงิ้วมาก ถึงขนาดบางครั้งเสด็จลงร่วมเล่นงิ้วด้วยก็มี ปัจจุบันโรงงิ้วจัดแสดงพระภูษาทรงของพระนางซูสีไทเฮา เครื่องประดับ เครื่องสำอาง รวมถึงรถเมอร์เซเดสเบนซ์คันแรกของจีนด้วย
4 ตำหนักเล่อโซ่วถาง เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของซูสีไทเฮา มีพระแท่นบรรทม พระวิสูตร(ม่าน) โคมไฟ เครื่องเรือน เครื่องใช้ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นของที่มีอยู่แต่เดิม
ซูสีไทเฮาไต่ระดับตนเองขึ้นมาจากสตรีสามัญ เป็นเพียงหนึ่งในจำนวนนับพันของหญิงสาวผู้ถูกส่งตัวเข้าวังเป็นนางสนม แต่ก็สามารถทำตนเองให้เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ จนขึ้นถึงตำแหน่งหนึ่งในสองฮองเฮาของพระสวามี กำจัดคู่แข่งไปได้สำเร็จ กุมอำนาจสูงสุดอยู่เบื้องหลังฮ่องเต้ถึง 2 องค์ตลอดเวลา 48 ปีจนถึงวาระสุดท้าย เธอเป็นสตรีผู้มีอำนาจและมีชื่อเสียงที่สุดของจีน แต่ก็นำความเสื่อมโทรมและความพินาศมาสู่ราชวงศ์ชิงและแผ่นดินจีนได้มากที่สุดเช่นกัน
และพระนางซูสีไทเฮา สวรรคตด้วยสาเหตุใด อ่านความจริงจากสำนักข่าว CNN รายงานเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ.2008 (พ.ศ.2551)
โฟโต้ออนทัวร์
21 สิงหาคม 2553
อ่านประวัติพระนางซูสีไทเฮาโดยละเอียด
|